วีเนียร์ (Veneer) หรือนวัตกรรมในการดูแลฟัน ที่มาในรูปแบบของการเคลือบฟัน โดยที่นวัตกรรมนี้จะเป็นการใช้วัสดุที่มีลักษณะที่คล้ายการเคลือบฟันที่เป็นธรรมธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งจะมีส่วนที่มีความบางเป็นอย่างมาก แถมยังมีสีที่ออกมาใกล้เคียงกับสีของฟัน ที่เหมือนนำเอามาติดบริเวณด้านหน้าฟัน ซึ่งไม่เพียงช่วยในเรื่องของความสวยงามน่ามอง แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาการทำร้ายผิวฟัน ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งอายุการใช้งานของวีเนียร์นั้นสามารถอยู่ได้นาน 10-15 ปี หากทำการรักษากับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ประเภทการทำวีเนียร์
สำหรับประเภทของการทำวีเนียร์ (Veneer) ในปัจจุบันนั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
1.เคลือบฟันเทียมที่ทำโดยตรงในช่องปาก (Direct Veneer)
สำหรับการเคลือบฟันประเภทแรกนั้นก็คือ การใช้วัสดุอุดสีเหมือนฟัน โดยจะทำการทำร่วมกับสารยึดติด ที่จะทำให้สามารถอุดปิดลงบนผิวหน้าฟันโดยตรงในช่องปากได้ โดยที่จะส่งผลโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลง ลักษณะของฟัน และสีฟัน โดยที่วิธีการทำในลักษณะนี้ มีความจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการปฎิบัติการเป็นอย่างมาก สำหรับการทำวีเนียร์ประเภทนี้ จะทำให้ไม่ต้องทำการกรอฟันที่มากจนเกินไป แต่มีข้อเสียที่ต้องพิจารณาให้ดีคือ เพราะในแต่ละครั้ง จะต้องใช้เวลาในการปฎิบัติการที่นานพอสมควร และถ้าหากควบคุมวัสดุอุดบริเวณขอบได้ไม่ดีพอ จะทำให้เกิดปัญหากลิ่นปาก เหงือกอักเสบ โดยวัสดุที่ใช้คือคอมโพสิตเรซิน (Composite Resin) เป็นวัสดุผสมระหว่างเรซินและซิลิกา ซึ่งความคงทนของสีและความเรียบเงาจะน้อยกว่าวัสดุประเภทพอร์ซเลน
2. เคลือบฟันเทียมที่ทำนอกช่องปาก (Indirect Veneer)
สำหรับการเคลือบฟันประเภทนี้ก็คือ การที่ทันตแพทย์จะทำการกรอผิวฟันเดิมที่มีปัญหาออกมาก่อน เพื่อที่จะทำขั้นตอนในการพิมพ์ปากตามรูปแบบที่ต้องการขึ้นมาใหม่ ซึ่งผู้ป่วยจะสามารถเลือกสีฟันที่ต้องการได้ จากนั้นจะส่งต่อข้อมูล และพิมพ์ปากที่ต้องการ นำเข้าปฎิบัติการต่อภายในห้องแล็ป โดยใช้วัสดุประเภทพอร์ซเลน (Porcelain) สำหรับการทำวีเนียร์ประเภทนี้นั้น จะสามารถทำให้มีความเงางามเหมือนฟันธรรมชาติเป็นอย่างมาก และจะมีสีของฟัน ที่มีความคงทน และยื่นระยะการใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งทันตแพทย์จะใส่ผิวฟันชั่วคราวให้คนไข้ระหว่างที่รอชิ้นงานส่งกลับมาให้ทันตแพทย์ใส่เข้าไปในช่องปากของคนไข้อีกครั้งจนเสร็จสมบูรณ์
เตรียมตัวก่อนทำวีเนียร์
หากตัดสินใจทำวีเนียร์แล้ว การเตรียมตัวก่อนทำวีเนียร์ที่สำคัญ ได้แก่
- ทำความสะอาดฟัน
- รักษาฟันผุ
- รักษาเหงือกอักเสบ
ดูแลรักษาหลังทำวีเนียร์
- วิธีดูแลรักษาสุขภาพฟันหลังทำวิเนียร์สามารถทำได้โดย
- แปรงฟันให้สะอาด โดยเฉพาะบริเวณขอบเหงือกที่ทำวีเนียร์
- ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง
- เลี่ยงการกัดของแข็งและการใช้ฟันหน้ากัดแทะ
- ระวังการใช้ฟันในลักษณะกัดแล้วงัดออก
- พบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน
- หากเป็นคนที่นอนกัดฟันต้องใส่เฝือกสบฟันเพื่อป้องกันวีเนียร์เสียหาย
ทำวีเนียร์ดีอย่างไร
- เพิ่มความมั่นใจและความสวยงามให้ฟันและรอยยิ้ม
- ปรับปรุงสภาพฟันให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง
- ตกแต่งรูปร่างฟันได้
- มีความแข็งแรงคงทนและยากต่อการติดคราบเครื่องดื่ม อาหาร และบุหรี่
- ปิดช่องว่างในกรณีที่ฟันห่าง
- ปกปิดสีฟันที่ผิดปกติไม่ชวนมอง
ถึงแม้ในปัจจุบันเทคโนโลยีจะมีการพัฒนาออกไปมากมาย จึงทำให้การทำวีเนียร์ (Veneer) เป็นวิธีที่ทันสมัย และมีประโยชน์ต่อการใช้งานมากมาย แต่ถึงอย่างไร ก็ยังมีข้อเสียแอบแฝงอยู่บ้าง นั่นคือในกระบวนการรักษาที่จำเป็นต้องกรอฟันนั้น เคลือบฟันที่สูญเสียไปจะไม่มีวันคืนกลับมาอีก เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรที่จะเข้ารับการบริการในการทำ วีเนียร์ ในจำนวนที่หลายครั้งจนเกินไป เพราะการทำบ่อย ๆ ก็หมายถึงจะต้องถูกกรอถูกฟันธรรมชาติมากขึ้น ที่สำคัญคลินิกที่จะเข้ารับบริการจำเป็นที่จะต้องมีทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และห้องแล็บที่มีอุปกรณ์เครื่องมือครบครัน จึงจะสามารถทำการรักษาได้สมบูรณ์ ทำให้ใช้งานวีเนียร์ได้เป็นระยะเวลานาน